...
หมวดหมู่

5 โรคยอดฮิตในกระต่ายไทย วิธีป้องกันและรักษา

5 โรคยอดฮิตในกระต่ายไทย วิธีป้องกันและรักษา

5 โรคยอดฮิตในกระต่ายไทย วิธีป้องกันและรักษา

กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมที่น่ารักและขี้อ้อน แต่ก็มีโอกาสป่วยเป็นโรคต่างๆ ได้เช่นกัน โรคยอดฮิต 5 โรคในกระต่ายไทย ได้แก่

โรคท้องเสียในกระต่ายไทย

สาเหตุ:

โรคท้องเสียในกระต่ายไทยมีหลายสาเหตุที่พบบ่อย ดังนี้

  • การติดเชื้อ: เช่น แบคทีเรีย โปรโตซัว ไวรัส
  • อาหาร: อาหารที่ไม่สะอาด อาหารสดใหม่ อาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่เปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน
  • ยา: ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด ยา NSAIDs
  • พยาธิ: พยาธิในลำไส้
  • ความเครียด: การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม การย้ายบ้าน การอยู่รวมกันเป็นฝูง
  • โรคอื่นๆ: โรคตับ โรคไต โรคมะเร็ง

อาการ:

  • ถ่ายเหลวเป็นน้ำ เป็นมูก หรือมีเลือดปน
  • เบื่ออาหาร ซึม ไม่ร่าเริง
  • อาเจียน
  • ท้องอืด
  • ขนร่วง
  • น้ำหนักลด

การวินิจฉัย:

สัตวแพทย์จะวินิจฉัยโรคท้องเสียในกระต่ายโดยอาศัยประวัติการเจ็บป่วย อาการทางคลินิก การตรวจร่างกาย และการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด การตรวจอุจจาระ การตรวจเอกซ์เรย์

การรักษา:

การรักษาโรคท้องเสียในกระต่ายจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ ดังนี้

  • การติดเชื้อ: สัตวแพทย์จะสั่งยาปฏิชีวนะ ยาต้านโปรโตซัว หรือยาต้านไวรัส
  • อาหาร: ปรับอาหารให้เหมาะสม งดอาหารสดใหม่ อาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารที่มีไขมันสูง
  • ยา: หยุดยาที่อาจเป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย
  • พยาธิ: ถ่ายพยาธิ
  • ความเครียด: ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ลดความเครียด
  • โรคอื่นๆ: รักษาโรคที่เป็นสาเหตุ

การป้องกัน:

  • ให้กระต่ายกินอาหารที่สะอาด สดใหม่
  • เปลี่ยนน้ำดื่มทุกวัน
  • เก็บอาหารและน้ำให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยงอื่น
  • ทำความสะอาดกรงขังและอุปกรณ์ให้อยู่เสมอ
  • พากระต่ายไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและถ่ายพยาธิเป็นประจำ
  • ลดความเครียดให้กระต่าย

การพยากรณ์โรค:

การพยากรณ์โรคท้องเสียในกระต่ายขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปแล้ว โรคท้องเสียในกระต่ายที่รักษาโดยสัตวแพทย์มีโอกาสรอดชีวิตสูง

ข้อควรระวัง:

  • หากกระต่ายมีอาการท้องเสีย ควรพากระต่ายไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด
  • ไม่ควรซื้อยามารักษาเอง เพราะอาจทำให้กระต่ายมีอาการแย่ลง
  • การให้น้ำเกลือและสารอาหารทางหลอดเลือดอาจจำเป็นในกรณีที่กระต่ายมีอาการขาดน้ำ
Thai rabbit eating carrots 1

โรคหวัดในกระต่ายไทย

สาเหตุ:

โรคหวัดในกระต่ายไทยเกิดจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่ติดต่อผ่านทางอากาศ น้ำมูก น้ำลาย หรือการสัมผัสโดยตรงกับกระต่ายป่วย สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่

  • เชื้อไวรัส: เชื้อไวรัสไข้หวัดกระต่าย (Rabbit Hemorrhagic Virus – RHD) เชื้อไวรัสปอดอักเสบ (Pasteurella multocida)
  • เชื้อแบคทีเรีย: เชื้อ Bordetella bronchiseptica เชื้อ Staphylococcus aureus

อาการ:

  • น้ำมูกไหล ไอ จาม หายใจลำบาก
  • ตาแดง ตาอักเสบ
  • จมูกเปียก มีขี้เกลียว
  • ซึม ไม่ร่าเริง
  • เบื่ออาหาร
  • น้ำหนักลด

การวินิจฉัย:

สัตวแพทย์จะวินิจฉัยโรคหวัดในกระต่ายโดยอาศัยประวัติการเจ็บป่วย อาการทางคลินิก การตรวจร่างกาย และการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด การตรวจอุจจาระ การตรวจเอกซ์เรย์

การรักษา:

การรักษาโรคหวัดในกระต่ายจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ ดังนี้

  • เชื้อไวรัส: ไม่มีวิธีรักษาเฉพาะ แต่สัตวแพทย์จะรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาแก้ไอ ยาแก้จาม ยาแก้อักเสบ และยาเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • เชื้อแบคทีเรีย: สัตวแพทย์จะสั่งยาปฏิชีวนะ

การป้องกัน:

  • ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดกระต่าย (RHD) ทุกปี
  • รักษาความสะอาดกรงขังและอุปกรณ์ให้อยู่เสมอ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับกระต่ายป่วย
  • ลดความเครียดให้กระต่าย

การพยากรณ์โรค:

การพยากรณ์โรคหวัดในกระต่ายขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปแล้ว โรคหวัดในกระต่ายที่รักษาโดยสัตวแพทย์มีโอกาสรอดชีวิตสูง

ข้อควรระวัง:

  • หากกระต่ายมีอาการหวัด ควรพากระต่ายไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด
  • ไม่ควรซื้อยามารักษาเอง เพราะอาจทำให้กระต่ายมีอาการแย่ลง
  • การให้น้ำเกลือและสารอาหารทางหลอดเลือดอาจจำเป็นในกรณีที่กระต่ายมีอาการขาดน้ำ

หมายเหตุ:

ข้อมูลในหน้านี้เป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถแทนคำแนะนำของสัตวแพทย์ได้ หากกระต่ายของคุณมีอาการหวัด ควรพากระต่ายไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด

โรคผิวหนังในกระต่ายไทย

โรคผิวหนังเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในกระต่ายไทย สาเหตุของโรคผิวหนังมีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น เชื้อโรค สภาพแวดล้อม การดูแลรักษา

สาเหตุที่พบบ่อยของโรคผิวหนังในกระต่ายไทย:

  • ไรและหมัด: ไรและหมัดเป็นปรสิตภายนอกที่พบบ่อยในกระต่าย สามารถทำให้เกิดอาการคัน ระคายเคือง ผิวหนังแดง และขนร่วง
  • เชื้อรา: เชื้อราเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังหลายชนิด เช่น ขี้กลาก เชื้อราบนผิวหนัง มักทำให้เกิดอาการคัน ผิวหนังแดง ลอกเป็นขุย และขนร่วง
  • แบคทีเรีย: แบคทีเรียสามารถทำให้เกิดโรคผิวหนังหลายชนิด เช่น ฝีหนอง แผลอักเสบ มักทำให้เกิดอาการบวมแดง อักเสบ และมีหนองไหล
  • ภูมิแพ้: กระต่ายอาจแพ้อาหาร ยา หรือสิ่งแวดล้อม สิ่งนี้อาจทำให้เกิดอาการคัน ผิวหนังแดง และอักเสบ
  • ความเครียด: ความเครียดสามารถทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของกระต่ายอ่อนแอลง ทำให้เกิดโรคผิวหนังได้ง่ายขึ้น

อาการทั่วไปของโรคผิวหนังในกระต่ายไทย:

  • คัน ระคายเคือง
  • ผิวหนังแดง ลอกเป็นขุย หรือมีตุ่ม
  • ขนร่วง
  • แผลอักเสบ หรือมีหนองไหล
  • เกาตัวเองจนเป็นแผล
  • เบื่ออาหาร ซึม ไม่ร่าเริง

การวินิจฉัยโรคผิวหนังในกระต่ายไทย:

สัตวแพทย์จะวินิจฉัยโรคผิวหนังในกระต่ายโดยอาศัยประวัติการเจ็บป่วย อาการทางคลินิก การตรวจร่างกาย และการตรวจเพิ่มเติม เช่น การขูดผิวหนัง การตรวจเลือด การตรวจปัสสาวะ การตรวจอุจจาระ การตัดชิ้นเนื้อ

การรักษาโรคผิวหนังในกระต่ายไทย:

การรักษาโรคผิวหนังในกระต่ายขึ้นอยู่กับสาเหตุ ดังนี้

  • ไรและหมัด: ใช้ยาหยอด ยาสระ หรือยาฉีดเพื่อกำจัดไรและหมัด
  • เชื้อรา: ใช้ยาทา ยาหยอด หรือยากินต้านเชื้อรา
  • แบคทีเรีย: ใช้ยาปฏิชีวนะ
  • ภูมิแพ้: หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ ใช้ยาแก้แพ้
  • ความเครียด: ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ลดความเครียด

การป้องกันโรคผิวหนังในกระต่ายไทย:

  • รักษาความสะอาดกรงขังและอุปกรณ์ให้อยู่เสมอ
  • ตรวจสอบร่างกายของกระต่ายเป็นประจำเพื่อหาสัญญาณของโรคผิวหนัง
  • พากระต่ายไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและถ่ายพยาธิเป็นประจำ
  • ฉีดวัคซีนป้องกันโรคบางชนิด
  • ให้กระต่ายกินอาหารที่มีคุณภาพสูง
  • หลีกเลี่ยงความเครียด

การพยากรณ์โรคผิวหนังในกระต่ายไทย:

การพยากรณ์โรคผิวหนังในกระต่ายขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปแล้ว โรคผิวหนังในกระต่ายที่รักษาโดยสัตวแพทย์มีโอกาสรอดชีวิตสูง

ข้อควรระวัง:

  • หากกระต่ายมีอาการคัน ระคายเคือง ผิวหนังแดง หรือขนร่วง ควรพากระต่ายไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด
  • ไม่ควรซื้อยามารักษาเอง เพราะอาจทำให้กระต่ายมีอาการแย่ลง
  • การให้น้ำเกลือและสารอาหารทางหลอดเลือดอาจจำเป็นในกรณีที่กระต่ายมีอาการขาดน้ำ
5 โรคยอดฮิตในกระต่ายไทย วิธีป้องกันและรักษา

โรคฟันยาวในกระต่ายไทย

ฟันของกระต่ายมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยฟันคู่หน้า (incisors) จะยาวประมาณ 2.5 มิลลิเมตรต่อสัปดาห์ ฟันกราม (molars) จะยาวประมาณ 0.5 มิลลิเมตรต่อสัปดาห์

สาเหตุของโรคฟันยาวในกระต่ายไทย:

  • การให้อาหารที่ไม่เหมาะสม: อาหารที่อ่อนนุ่ม เช่น อาหารเม็ดสำเร็จรูป ผลไม้ ขนมหวาน ไม่สามารถช่วยให้กระต่ายได้ขัดฟันอย่างเพียงพอ
  • ความผิดปกติทางพันธุกรรม: กระต่ายบางตัวอาจมีฟันที่ยาวผิดปกติตั้งแต่กำเนิด
  • โรคบางชนิด: โรคบางชนิด เช่น โรคมะเร็งช่องปาก โรคขากรรไกรอักเสบ อาจทำให้กระต่ายไม่สามารถขัดฟันได้อย่างปกติ

อาการของโรคฟันยาวในกระต่ายไทย:

  • น้ำลายไหล
  • เบื่ออาหาร
  • ซึม ไม่ร่าเริง
  • น้ำหนักลด
  • ขนร่วง
  • อาเจียน
  • ท้องเสีย
  • ตาแดง ตาอักเสบ
  • จมูกเปียก มีขี้เกลียว
  • หายใจลำบาก
  • ฟันยาวผิดรูป
  • แผลในช่องปาก

การวินิจฉัยโรคฟันยาวในกระต่ายไทย:

สัตวแพทย์จะวินิจฉัยโรคฟันยาวในกระต่ายโดยอาศัยประวัติการเจ็บป่วย อาการทางคลินิก การตรวจร่างกาย และการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจช่องปากด้วยเครื่องมือ การเอกซเรย์

การรักษาโรคฟันยาวในกระต่ายไทย:

การรักษาโรคฟันยาวในกระต่ายขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ดังนี้

  • กรณีฟันยาวเล็กน้อย: สัตวแพทย์จะตัดแต่งฟันด้วยเครื่องมือพิเศษ
  • กรณีฟันยาวมาก: สัตวแพทย์อาจจำเป็นต้องใช้ยาสลบเพื่อตัดแต่งฟัน
  • กรณีมีสาเหตุอื่น: สัตวแพทย์จะรักษาโรคที่เป็นสาเหตุ

การป้องกันโรคฟันยาวในกระต่ายไทย:

  • ให้กระต่ายกินหญ้าแห้งเป็นอาหารหลัก หญ้าแห้งมีใยอาหารสูง ช่วยให้กระต่ายได้ขัดฟัน
  • หลีกเลี่ยงการให้อาหารที่อ่อนนุ่ม เช่น อาหารเม็ดสำเร็จรูป ผลไม้ ขนมหวาน
  • พากระต่ายไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและตัดแต่งฟันเป็นประจำ

การพยากรณ์โรคฟันยาวในกระต่ายไทย:

การพยากรณ์โรคฟันยาวในกระต่ายขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปแล้ว โรคฟันยาวในกระต่ายที่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องมีโอกาสรอดชีวิตสูง

ข้อควรระวัง:

  • ไม่ควรพยายามตัดแต่งฟันกระต่ายด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้กระต่ายได้รับบาดเจ็บ
  • หากกระต่ายมีอาการผิดปกติ เช่น น้ำลายไหล เบื่ออาหาร ซึม ไม่ร่าเริง ควรพากระต่ายไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด

โรคมดลูกโตในกระต่ายไทย

โรคมดลูกโต (Pyometra) ในกระต่ายไทย เป็นภาวะการติดเชื้อที่รุนแรงในมดลูก มักเกิดขึ้นในกระต่ายเพศเมียที่ไม่เคยผสมพันธุ์หรือผสมพันธุ์น้อย มักพบบ่อยในกระต่ายพันธุ์ขนาดใหญ่ เช่น กระต่าย Flemish Giant, Dutch, English Lop

สาเหตุของโรคมดลูกโตในกระต่ายไทย:

  • ฮอร์โมนเพศหญิง: กระต่ายเพศเมียที่ไม่เคยผสมพันธุ์หรือผสมพันธุ์น้อย มักมีระดับฮอร์โมนเพศหญิงสูง ซึ่งกระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวและสร้างมูกมาก
  • แบคทีเรีย: แบคทีเรียอาจเข้าสู่โพรงมดลูกผ่านปากมดลูกที่เปิดอยู่

อาการของโรคมดลูกโตในกระต่ายไทย:

  • อวัยวะเพศบวมแดง: กระต่ายอาจมีอาการอวัยวะเพศบวมแดง คัน ระคายเคือง
  • ตกขาว: กระต่ายอาจมีตกขาวสีเหลืองเขียวหรือสีน้ำตาลไหลออกมาจากอวัยวะเพศ
  • อาเจียน: กระต่ายอาจมีอาการอาเจียน เบื่ออาหาร ซึม ไม่ร่าเริง
  • น้ำหนักลด: กระต่ายอาจมีน้ำหนักลด
  • ขนร่วง: กระต่ายอาจมีขนร่วง
  • ท้องอืด: กระต่ายอาจมีท้องอืด
  • หายใจลำบาก: กระต่ายอาจหายใจลำบาก

การวินิจฉัยโรคมดลูกโตในกระต่ายไทย:

สัตวแพทย์จะวินิจฉัยโรคมดลูกโตในกระต่ายโดยอาศัยประวัติการเจ็บป่วย อาการทางคลินิก การตรวจร่างกาย และการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจอัลตราซาวด์ การตรวจเลือด การตรวจปัสสาวะ การตรวจอุจจาระ การตัดชิ้นเนื้อ

การรักษาโรคมดลูกโตในกระต่ายไทย:

การรักษาโรคมดลูกโตในกระต่ายขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ดังนี้

  • กรณีติดเชื้อไม่รุนแรง: สัตวแพทย์อาจสั่งยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ
  • กรณีติดเชื้อรุนแรง: สัตวแพทย์อาจจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อออก

การป้องกันโรคมดลูกโตในกระต่ายไทย:

  • การผสมพันธุ์: การผสมพันธุ์เป็นวิธีป้องกันโรคมดลูกโตที่ดีที่สุด กระต่ายเพศเมียที่ผสมพันธุ์เป็นประจำจะมีโอกาสเกิดโรคมดลูกโตน้อย
  • การทำหมัน: การทำหมันเป็นวิธีป้องกันโรคมดลูกโตอย่างถาวร
  • การรักษาความสะอาด: รักษาความสะอาดกรงขังและอุปกรณ์ให้อยู่เสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย

การพยากรณ์โรคของโรคมดลูกโตในกระต่ายไทย:

การพยากรณ์โรคของโรคมดลูกโตในกระต่ายขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปแล้ว โรคมดลูกโตในกระต่ายที่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องมีโอกาสรอดชีวิตสูง

ข้อควรระวัง:

  • หากกระต่ายเพศเมียมีอาการอวัยวะเพศบวมแดง ตกขาว อาเจียน เบื่ออาหาร ซึม ไม่ร่าเริง ควรพากระต่ายไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด
  • ไม่ควรซื้อยามารักษาเอง เพราะอาจทำให้กระต่ายมีอาการแย่ลง
  • การให้น้ำเกลือและสารอาหารทางหลอดเลือดอาจจำเป็นในกรณีที่กระต่ายมีอาการขาดน้ำ

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

1 22
sg 11134201 7rbm3 ln5ghuadlhome8
AG-Science Goat Milk Powder - นมผงสำหรับสัตว์ฟันแทะ 150g
Sale
Placeholder
Sale
Placeholder
Out of stock
Screenshot from 2022 05 08 14 44 42
Out of stock
Screenshot from 2022 05 08 14 44 42
468778143 541500601987664 8716263992093648058 n
469110794 541500591987665 5257677058370404765 n
465813 1

บทความที่น่าสนใจ

อาหารแมวเม็ด

อาหารแมวเม็ดผสมฟรีซดราย คืออะไร?

ในยุคที่ความใส่ใจต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงเป็นที่นิยมมากขึ้น หนึ่งในนวัตกรรมของอาหารสัตว์เลี้ยงที่มาแรงในปัจจุบันคือ “อาหารแมวผสมฟรีซดราย” เพียงแต่เป็นทางเลือกใหม่ที่ดึงดูดใจของแมวด้วยรสชาติและกลิ่นที่เข้มข้น แต่ยังรักษาคุณค่าทางโภชนาการที่สูงไว้ได้ดีเยี่ยม

Read More »
เมียร์แคท

เมียร์แคท 5 เหตุผลทำไมคนถึงนิยมเลี้ยงมากขึ้น

ในปี 2024 โลกของสัตว์เลี้ยงกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่ความหลากหลายที่มากขึ้น และหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากคือ “เมียร์แคท” หรือที่หลายคนรู้จักในนาม “เจ้าตัวน้อยเฝ้าระวัง” บทความนี้จะพาทุกท่านไปสำรวจเหตุผลที่ทำให้เมียร์แคทกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงที่ฮิตในปีนี้ พร้อมกับรายละเอียดและตัวอย่างที่จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงแรงบันดาลใจและความท้าทายของการเลี้ยงดูเมียร์แคท

Read More »
ปอมเมอเรเนียน

ปอมเมอเรเนียน การดูแลสุขภาพใน 3 ช่วงวัย!

ปอมเมอเรเนียนเป็นสุนัขสายพันธุ์เล็กที่มีเสน่ห์และความน่ารักที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่ผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงทั่วโลก อย่างไรก็ตามการดูแลสุขภาพของน้องในแต่ละช่วงวัยก็เป็นเรื่องที่สำคัญ วันนี้เราได้รวบรวมคำแนะนำการดูแลสุขภาพตามช่วงวัยอย่างเหมาะสมมาไว้ที่นี่แล้ว!

Read More »
petz world cnx

ติดตามเพจใหม่ของพวกเราได้ที่ “Petz World CNX” แจ้งย้ายเพจเฟสบุ๊ค

ทำไมถึงย้ายเพจเฟสบุ๊ค? เพื่อเปิดการมองเห็น และโพสต์อัปเดตข่าวสารต่างๆที่ดีกว่า ทั้งลูกค้าชาวเชียงใหม่ และต่างจังหวัด! ติดตามเพจใหม่ของพวกเราได้ที่นี่!

Read More »
กิ้งก่า

6 กิ้งก่าและสัตว์เลื้อยคลานยอดฮิตในปี 2024 | สัตว์เลื้อยคลานเลี้ยงได้จริงหรือ?

สัตว์เลื้อยคลานเลี้ยงได้จริงไหม? แล้วมีตัวไหนบ้างที่คนนิยมเลี้ยงวันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน!

Read More »
hamster

“Hamster” คู่มือการเลือกสายพันธุ์แฮมสเตอร์ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ

คุณกำลังคิดที่จะต้อนรับแฮมสเตอร์ตัวน้อยเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัวหรือไม่? การเลือกแฮมสเตอร์ที่เหมาะสมไม่ใช่แค่การเลือกสัตว์เลี้ยงทั่วไป แต่เป็นการเลือกเพื่อนร่วมชีวิตที่จะอยู่กับคุณไปอีกหลายปี แฮมเตอร์แบบไหนเหมาะกับคุณ? มาดูกัน!

Read More »