หมวดหมู่

5 โรคยอดฮิตในกระต่ายไทย วิธีป้องกันและรักษา

5 โรคยอดฮิตในกระต่ายไทย วิธีป้องกันและรักษา

5 โรคยอดฮิตในกระต่ายไทย วิธีป้องกันและรักษา

กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมที่น่ารักและขี้อ้อน แต่ก็มีโอกาสป่วยเป็นโรคต่างๆ ได้เช่นกัน โรคยอดฮิต 5 โรคในกระต่ายไทย ได้แก่

โรคท้องเสียในกระต่ายไทย

สาเหตุ:

โรคท้องเสียในกระต่ายไทยมีหลายสาเหตุที่พบบ่อย ดังนี้

  • การติดเชื้อ: เช่น แบคทีเรีย โปรโตซัว ไวรัส
  • อาหาร: อาหารที่ไม่สะอาด อาหารสดใหม่ อาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่เปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน
  • ยา: ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด ยา NSAIDs
  • พยาธิ: พยาธิในลำไส้
  • ความเครียด: การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม การย้ายบ้าน การอยู่รวมกันเป็นฝูง
  • โรคอื่นๆ: โรคตับ โรคไต โรคมะเร็ง

อาการ:

  • ถ่ายเหลวเป็นน้ำ เป็นมูก หรือมีเลือดปน
  • เบื่ออาหาร ซึม ไม่ร่าเริง
  • อาเจียน
  • ท้องอืด
  • ขนร่วง
  • น้ำหนักลด

การวินิจฉัย:

สัตวแพทย์จะวินิจฉัยโรคท้องเสียในกระต่ายโดยอาศัยประวัติการเจ็บป่วย อาการทางคลินิก การตรวจร่างกาย และการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด การตรวจอุจจาระ การตรวจเอกซ์เรย์

การรักษา:

การรักษาโรคท้องเสียในกระต่ายจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ ดังนี้

  • การติดเชื้อ: สัตวแพทย์จะสั่งยาปฏิชีวนะ ยาต้านโปรโตซัว หรือยาต้านไวรัส
  • อาหาร: ปรับอาหารให้เหมาะสม งดอาหารสดใหม่ อาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารที่มีไขมันสูง
  • ยา: หยุดยาที่อาจเป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย
  • พยาธิ: ถ่ายพยาธิ
  • ความเครียด: ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ลดความเครียด
  • โรคอื่นๆ: รักษาโรคที่เป็นสาเหตุ

การป้องกัน:

  • ให้กระต่ายกินอาหารที่สะอาด สดใหม่
  • เปลี่ยนน้ำดื่มทุกวัน
  • เก็บอาหารและน้ำให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยงอื่น
  • ทำความสะอาดกรงขังและอุปกรณ์ให้อยู่เสมอ
  • พากระต่ายไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและถ่ายพยาธิเป็นประจำ
  • ลดความเครียดให้กระต่าย

การพยากรณ์โรค:

การพยากรณ์โรคท้องเสียในกระต่ายขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปแล้ว โรคท้องเสียในกระต่ายที่รักษาโดยสัตวแพทย์มีโอกาสรอดชีวิตสูง

ข้อควรระวัง:

  • หากกระต่ายมีอาการท้องเสีย ควรพากระต่ายไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด
  • ไม่ควรซื้อยามารักษาเอง เพราะอาจทำให้กระต่ายมีอาการแย่ลง
  • การให้น้ำเกลือและสารอาหารทางหลอดเลือดอาจจำเป็นในกรณีที่กระต่ายมีอาการขาดน้ำ
Thai rabbit eating carrots 1

โรคหวัดในกระต่ายไทย

สาเหตุ:

โรคหวัดในกระต่ายไทยเกิดจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่ติดต่อผ่านทางอากาศ น้ำมูก น้ำลาย หรือการสัมผัสโดยตรงกับกระต่ายป่วย สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่

  • เชื้อไวรัส: เชื้อไวรัสไข้หวัดกระต่าย (Rabbit Hemorrhagic Virus – RHD) เชื้อไวรัสปอดอักเสบ (Pasteurella multocida)
  • เชื้อแบคทีเรีย: เชื้อ Bordetella bronchiseptica เชื้อ Staphylococcus aureus

อาการ:

  • น้ำมูกไหล ไอ จาม หายใจลำบาก
  • ตาแดง ตาอักเสบ
  • จมูกเปียก มีขี้เกลียว
  • ซึม ไม่ร่าเริง
  • เบื่ออาหาร
  • น้ำหนักลด

การวินิจฉัย:

สัตวแพทย์จะวินิจฉัยโรคหวัดในกระต่ายโดยอาศัยประวัติการเจ็บป่วย อาการทางคลินิก การตรวจร่างกาย และการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด การตรวจอุจจาระ การตรวจเอกซ์เรย์

การรักษา:

การรักษาโรคหวัดในกระต่ายจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ ดังนี้

  • เชื้อไวรัส: ไม่มีวิธีรักษาเฉพาะ แต่สัตวแพทย์จะรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาแก้ไอ ยาแก้จาม ยาแก้อักเสบ และยาเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • เชื้อแบคทีเรีย: สัตวแพทย์จะสั่งยาปฏิชีวนะ

การป้องกัน:

  • ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดกระต่าย (RHD) ทุกปี
  • รักษาความสะอาดกรงขังและอุปกรณ์ให้อยู่เสมอ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับกระต่ายป่วย
  • ลดความเครียดให้กระต่าย

การพยากรณ์โรค:

การพยากรณ์โรคหวัดในกระต่ายขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปแล้ว โรคหวัดในกระต่ายที่รักษาโดยสัตวแพทย์มีโอกาสรอดชีวิตสูง

ข้อควรระวัง:

  • หากกระต่ายมีอาการหวัด ควรพากระต่ายไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด
  • ไม่ควรซื้อยามารักษาเอง เพราะอาจทำให้กระต่ายมีอาการแย่ลง
  • การให้น้ำเกลือและสารอาหารทางหลอดเลือดอาจจำเป็นในกรณีที่กระต่ายมีอาการขาดน้ำ

หมายเหตุ:

ข้อมูลในหน้านี้เป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถแทนคำแนะนำของสัตวแพทย์ได้ หากกระต่ายของคุณมีอาการหวัด ควรพากระต่ายไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด

โรคผิวหนังในกระต่ายไทย

โรคผิวหนังเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในกระต่ายไทย สาเหตุของโรคผิวหนังมีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น เชื้อโรค สภาพแวดล้อม การดูแลรักษา

สาเหตุที่พบบ่อยของโรคผิวหนังในกระต่ายไทย:

  • ไรและหมัด: ไรและหมัดเป็นปรสิตภายนอกที่พบบ่อยในกระต่าย สามารถทำให้เกิดอาการคัน ระคายเคือง ผิวหนังแดง และขนร่วง
  • เชื้อรา: เชื้อราเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังหลายชนิด เช่น ขี้กลาก เชื้อราบนผิวหนัง มักทำให้เกิดอาการคัน ผิวหนังแดง ลอกเป็นขุย และขนร่วง
  • แบคทีเรีย: แบคทีเรียสามารถทำให้เกิดโรคผิวหนังหลายชนิด เช่น ฝีหนอง แผลอักเสบ มักทำให้เกิดอาการบวมแดง อักเสบ และมีหนองไหล
  • ภูมิแพ้: กระต่ายอาจแพ้อาหาร ยา หรือสิ่งแวดล้อม สิ่งนี้อาจทำให้เกิดอาการคัน ผิวหนังแดง และอักเสบ
  • ความเครียด: ความเครียดสามารถทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของกระต่ายอ่อนแอลง ทำให้เกิดโรคผิวหนังได้ง่ายขึ้น

อาการทั่วไปของโรคผิวหนังในกระต่ายไทย:

  • คัน ระคายเคือง
  • ผิวหนังแดง ลอกเป็นขุย หรือมีตุ่ม
  • ขนร่วง
  • แผลอักเสบ หรือมีหนองไหล
  • เกาตัวเองจนเป็นแผล
  • เบื่ออาหาร ซึม ไม่ร่าเริง

การวินิจฉัยโรคผิวหนังในกระต่ายไทย:

สัตวแพทย์จะวินิจฉัยโรคผิวหนังในกระต่ายโดยอาศัยประวัติการเจ็บป่วย อาการทางคลินิก การตรวจร่างกาย และการตรวจเพิ่มเติม เช่น การขูดผิวหนัง การตรวจเลือด การตรวจปัสสาวะ การตรวจอุจจาระ การตัดชิ้นเนื้อ

การรักษาโรคผิวหนังในกระต่ายไทย:

การรักษาโรคผิวหนังในกระต่ายขึ้นอยู่กับสาเหตุ ดังนี้

  • ไรและหมัด: ใช้ยาหยอด ยาสระ หรือยาฉีดเพื่อกำจัดไรและหมัด
  • เชื้อรา: ใช้ยาทา ยาหยอด หรือยากินต้านเชื้อรา
  • แบคทีเรีย: ใช้ยาปฏิชีวนะ
  • ภูมิแพ้: หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ ใช้ยาแก้แพ้
  • ความเครียด: ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ลดความเครียด

การป้องกันโรคผิวหนังในกระต่ายไทย:

  • รักษาความสะอาดกรงขังและอุปกรณ์ให้อยู่เสมอ
  • ตรวจสอบร่างกายของกระต่ายเป็นประจำเพื่อหาสัญญาณของโรคผิวหนัง
  • พากระต่ายไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและถ่ายพยาธิเป็นประจำ
  • ฉีดวัคซีนป้องกันโรคบางชนิด
  • ให้กระต่ายกินอาหารที่มีคุณภาพสูง
  • หลีกเลี่ยงความเครียด

การพยากรณ์โรคผิวหนังในกระต่ายไทย:

การพยากรณ์โรคผิวหนังในกระต่ายขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปแล้ว โรคผิวหนังในกระต่ายที่รักษาโดยสัตวแพทย์มีโอกาสรอดชีวิตสูง

ข้อควรระวัง:

  • หากกระต่ายมีอาการคัน ระคายเคือง ผิวหนังแดง หรือขนร่วง ควรพากระต่ายไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด
  • ไม่ควรซื้อยามารักษาเอง เพราะอาจทำให้กระต่ายมีอาการแย่ลง
  • การให้น้ำเกลือและสารอาหารทางหลอดเลือดอาจจำเป็นในกรณีที่กระต่ายมีอาการขาดน้ำ
5 โรคยอดฮิตในกระต่ายไทย วิธีป้องกันและรักษา

โรคฟันยาวในกระต่ายไทย

ฟันของกระต่ายมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยฟันคู่หน้า (incisors) จะยาวประมาณ 2.5 มิลลิเมตรต่อสัปดาห์ ฟันกราม (molars) จะยาวประมาณ 0.5 มิลลิเมตรต่อสัปดาห์

สาเหตุของโรคฟันยาวในกระต่ายไทย:

  • การให้อาหารที่ไม่เหมาะสม: อาหารที่อ่อนนุ่ม เช่น อาหารเม็ดสำเร็จรูป ผลไม้ ขนมหวาน ไม่สามารถช่วยให้กระต่ายได้ขัดฟันอย่างเพียงพอ
  • ความผิดปกติทางพันธุกรรม: กระต่ายบางตัวอาจมีฟันที่ยาวผิดปกติตั้งแต่กำเนิด
  • โรคบางชนิด: โรคบางชนิด เช่น โรคมะเร็งช่องปาก โรคขากรรไกรอักเสบ อาจทำให้กระต่ายไม่สามารถขัดฟันได้อย่างปกติ

อาการของโรคฟันยาวในกระต่ายไทย:

  • น้ำลายไหล
  • เบื่ออาหาร
  • ซึม ไม่ร่าเริง
  • น้ำหนักลด
  • ขนร่วง
  • อาเจียน
  • ท้องเสีย
  • ตาแดง ตาอักเสบ
  • จมูกเปียก มีขี้เกลียว
  • หายใจลำบาก
  • ฟันยาวผิดรูป
  • แผลในช่องปาก

การวินิจฉัยโรคฟันยาวในกระต่ายไทย:

สัตวแพทย์จะวินิจฉัยโรคฟันยาวในกระต่ายโดยอาศัยประวัติการเจ็บป่วย อาการทางคลินิก การตรวจร่างกาย และการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจช่องปากด้วยเครื่องมือ การเอกซเรย์

การรักษาโรคฟันยาวในกระต่ายไทย:

การรักษาโรคฟันยาวในกระต่ายขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ดังนี้

  • กรณีฟันยาวเล็กน้อย: สัตวแพทย์จะตัดแต่งฟันด้วยเครื่องมือพิเศษ
  • กรณีฟันยาวมาก: สัตวแพทย์อาจจำเป็นต้องใช้ยาสลบเพื่อตัดแต่งฟัน
  • กรณีมีสาเหตุอื่น: สัตวแพทย์จะรักษาโรคที่เป็นสาเหตุ

การป้องกันโรคฟันยาวในกระต่ายไทย:

  • ให้กระต่ายกินหญ้าแห้งเป็นอาหารหลัก หญ้าแห้งมีใยอาหารสูง ช่วยให้กระต่ายได้ขัดฟัน
  • หลีกเลี่ยงการให้อาหารที่อ่อนนุ่ม เช่น อาหารเม็ดสำเร็จรูป ผลไม้ ขนมหวาน
  • พากระต่ายไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและตัดแต่งฟันเป็นประจำ

การพยากรณ์โรคฟันยาวในกระต่ายไทย:

การพยากรณ์โรคฟันยาวในกระต่ายขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปแล้ว โรคฟันยาวในกระต่ายที่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องมีโอกาสรอดชีวิตสูง

ข้อควรระวัง:

  • ไม่ควรพยายามตัดแต่งฟันกระต่ายด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้กระต่ายได้รับบาดเจ็บ
  • หากกระต่ายมีอาการผิดปกติ เช่น น้ำลายไหล เบื่ออาหาร ซึม ไม่ร่าเริง ควรพากระต่ายไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด

โรคมดลูกโตในกระต่ายไทย

โรคมดลูกโต (Pyometra) ในกระต่ายไทย เป็นภาวะการติดเชื้อที่รุนแรงในมดลูก มักเกิดขึ้นในกระต่ายเพศเมียที่ไม่เคยผสมพันธุ์หรือผสมพันธุ์น้อย มักพบบ่อยในกระต่ายพันธุ์ขนาดใหญ่ เช่น กระต่าย Flemish Giant, Dutch, English Lop

สาเหตุของโรคมดลูกโตในกระต่ายไทย:

  • ฮอร์โมนเพศหญิง: กระต่ายเพศเมียที่ไม่เคยผสมพันธุ์หรือผสมพันธุ์น้อย มักมีระดับฮอร์โมนเพศหญิงสูง ซึ่งกระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวและสร้างมูกมาก
  • แบคทีเรีย: แบคทีเรียอาจเข้าสู่โพรงมดลูกผ่านปากมดลูกที่เปิดอยู่

อาการของโรคมดลูกโตในกระต่ายไทย:

  • อวัยวะเพศบวมแดง: กระต่ายอาจมีอาการอวัยวะเพศบวมแดง คัน ระคายเคือง
  • ตกขาว: กระต่ายอาจมีตกขาวสีเหลืองเขียวหรือสีน้ำตาลไหลออกมาจากอวัยวะเพศ
  • อาเจียน: กระต่ายอาจมีอาการอาเจียน เบื่ออาหาร ซึม ไม่ร่าเริง
  • น้ำหนักลด: กระต่ายอาจมีน้ำหนักลด
  • ขนร่วง: กระต่ายอาจมีขนร่วง
  • ท้องอืด: กระต่ายอาจมีท้องอืด
  • หายใจลำบาก: กระต่ายอาจหายใจลำบาก

การวินิจฉัยโรคมดลูกโตในกระต่ายไทย:

สัตวแพทย์จะวินิจฉัยโรคมดลูกโตในกระต่ายโดยอาศัยประวัติการเจ็บป่วย อาการทางคลินิก การตรวจร่างกาย และการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจอัลตราซาวด์ การตรวจเลือด การตรวจปัสสาวะ การตรวจอุจจาระ การตัดชิ้นเนื้อ

การรักษาโรคมดลูกโตในกระต่ายไทย:

การรักษาโรคมดลูกโตในกระต่ายขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ดังนี้

  • กรณีติดเชื้อไม่รุนแรง: สัตวแพทย์อาจสั่งยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ
  • กรณีติดเชื้อรุนแรง: สัตวแพทย์อาจจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อออก

การป้องกันโรคมดลูกโตในกระต่ายไทย:

  • การผสมพันธุ์: การผสมพันธุ์เป็นวิธีป้องกันโรคมดลูกโตที่ดีที่สุด กระต่ายเพศเมียที่ผสมพันธุ์เป็นประจำจะมีโอกาสเกิดโรคมดลูกโตน้อย
  • การทำหมัน: การทำหมันเป็นวิธีป้องกันโรคมดลูกโตอย่างถาวร
  • การรักษาความสะอาด: รักษาความสะอาดกรงขังและอุปกรณ์ให้อยู่เสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย

การพยากรณ์โรคของโรคมดลูกโตในกระต่ายไทย:

การพยากรณ์โรคของโรคมดลูกโตในกระต่ายขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปแล้ว โรคมดลูกโตในกระต่ายที่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องมีโอกาสรอดชีวิตสูง

ข้อควรระวัง:

  • หากกระต่ายเพศเมียมีอาการอวัยวะเพศบวมแดง ตกขาว อาเจียน เบื่ออาหาร ซึม ไม่ร่าเริง ควรพากระต่ายไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด
  • ไม่ควรซื้อยามารักษาเอง เพราะอาจทำให้กระต่ายมีอาการแย่ลง
  • การให้น้ำเกลือและสารอาหารทางหลอดเลือดอาจจำเป็นในกรณีที่กระต่ายมีอาการขาดน้ำ

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

1 22
sg 11134201 7rbm3 ln5ghuadlhome8
Out of stock
AG-Science Goat Milk Powder - นมผงสำหรับสัตว์ฟันแทะ 150g
Sale
Placeholder
Sale
Placeholder
Screenshot from 2022 05 08 14 44 42
Screenshot from 2022 05 08 14 44 42
468778143 541500601987664 8716263992093648058 n
469110794 541500591987665 5257677058370404765 n
465813 1

บทความที่น่าสนใจ

Canvirol

Canvirol นวัตกรรมใหม่ในการดูแลสัตว์เลี้ยง ต้านทานมะเร็ง!

Canvirol อาหารเสริมต้านทานเชื้อไวรัส ต้านทานมะเร็ง กระตุ้นภูมิคุ้มกันของเม็ดเลือดขาว ใช้ประกอบการรักษาโรคไข้หัด และโรค Fip นวัตกรรมใหม่แห่งการดูแลสัตว์เลี้ยง

Read More »
กรงกระต่าย

กรงกระต่ายเซ็ตเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ งบประหยัด

เซ็ตกรงกระต่ายเริ่มต้นราคาประหยัดคุณภาพดี ด้วยสินค้านำเข้าอันดับ 1 จากญี่ปุ่น พร้อมคู่มือการเลี้ยง และอุปกรณ์จำเป็นในการเลี้ยงกระต่าย สำหรับมือใหม่

Read More »
เฟอเรท

เฟอเรทมาถึงเพ็ทเวิลด์ พร้อมวิธีการเลี้ยงดูในปี 2025

มาเริ่มทำความรู้จักเฟอเรทกัน เฟอเรทไม่ใช่ตัวนาก ไม่ใช่สัตว์ในตระกูลเดียวกันกับพังพอน แต่เฟอเรทถูกจัดอยู่ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตระกูลเดียวกับวีเซล สามารถเลี้ยงได้ไม่ผิดกฏหมายในไทย!

Read More »
Blog Cover Template 1

Cavi Fruit VIT C วิตามินซีสำคัญอย่างไรกับแกสบี้?

Cavi Fruit Vit C สำคัญอย่างไรกับสัตว์ฟันแทะตระกูลหนู เนื่องจากพวกหนูแกสบี้ไม่สามารถผลิตวิตามินซีในระหว่างวันด้วยตัวเองได้นั้นเอง!

Read More »
หลอดไฟ uvb

หลอดไฟ UVB หลอดไฟจำลองระบบนิเวศที่คนเลี้ยงสัตว์ควรมี!

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเลี้ยงสัตว์ Exotic ในยุคปัจจุบัน อุปกรณ์ที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างที่ผู้เลี้ยงหลายคนมองข้ามคงจะเป็นหลอดไฟนั้นเอง หลอดไฟนั้นมีหลากหลายแบบแล้วแต่ละแบบมีความสำคัญยังไงมาติดตามกันในบทความนี้!

Read More »