...
หมวดหมู่

6 เรื่องงูบอลไพธ่อน เพื่อนเลื้อยคลานสุดน่ารักจากทวีปแอฟริกา

6 เรื่องงูบอลไพธ่อน เพื่อนเลื้อยคลานสุดน่ารักจากทวีปแอฟริกา

งูบอลไพธ่อน

1.ประวัติและต้นกำเนิดของงูบอลไพธ่อน

งูบอลไพธ่อน (Python regius) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “บอลพายธอน” “งูพระทอง” หรือ “งูหลามบอล” มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา พบกระจายพันธุ์ตั้งแต่ประเทศซูดานทางตะวันตกเฉียงเหนือ ไปจนถึงประเทศแคเมอรูนทางตะวันตกเฉียงใต้ อาศัยอยู่ในป่าทุ่งหญ้า ป่าไม้ และพื้นที่เกษตรกรรม มักอาศัยอยู่ตามโพรงดินหรือกิ่งไม้

การค้นพบและการตั้งชื่อ

งูบอลไพธ่อนได้รับการบันทึกเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1809 โดยนักสัตววิทยาชาวฝรั่งเศสชื่อ François Marie Daudin ตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Python regius มาจากภาษาละตินว่า “regius” แปลว่า “ของราชา” สื่อถึงความสง่างามและลวดลายที่สวยงามของงูชนิดนี้

วิวัฒนาการ

งูบอลไพธ่อนมีวิวัฒนาการมาจากงูโบราณที่อาศัยอยู่ในทวีปแอฟริกาเมื่อหลายล้านปีก่อน เชื่อกันว่าบรรพบุรุษของพวกมันมีขนาดใหญ่กว่ามากและอาศัยอยู่ในน้ำ งูบอลไพธ่อนได้พัฒนาปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งและสามารถอาศัยอยู่บนพื้นดินได้

การแพร่กระจายพันธุ์

ในปัจจุบัน งูบอลไพธ่อนไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ในทวีปแอฟริกาอีกต่อไป พวกมันถูกนำไปยังหลายประเทศทั่วโลกเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยง กลายเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมเนื่องจากนิสัยที่温顺 ดูแลรักษาง่าย และมีหลายสายพันธุ์ให้เลือก

2.ลักษณะทางกายภาพและพฤติกรรมของงูบอลไพธ่อน

งูบอลไพธ่อนเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องรูปลักษณ์ที่น่ารัก นิสัยที่温顺 และดูแลง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัตว์เลี้ยงแปลกใหม่ มาดูกันว่าพวกมันมีลักษณะทางกายภาพและพฤติกรรมอย่างไร

ลักษณะทางกายภาพ
  • ขนาด: โดยเฉลี่ยยาวประมาณ 1.2-1.8 เมตร ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ตัวผู้มักมีขนาดเล็กกว่าตัวเมีย
  • ลำตัว: อ้วนกลม มีเกล็ดเรียบ สีสันและลวดลายมีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ลวดลายยอดนิยม เช่น ลายจุด ลายทาง ลายข้าวโพด
  • หัว: มีขนาดเล็ก รูปร่างสามเหลี่ยม ตาโต มองเห็นได้ชัดเจน ไม่มีเปลือกตา
  • หาง: สั้น หนา มักใช้สำหรับยึดเกาะ
  • ฟัน: แหลมคม ใช้สำหรับจับและกัดเหยื่อ
พฤติกรรม
  • การเคลื่อนที่: เคลื่อนที่โดยการคลาน โดยใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องดันพื้น
  • การล่าเหยื่อ: เป็นสัตว์กินเนื้อ ล่าเหยื่อโดยการซุ่มโจมตี รัดเหยื่อจนขาดอากาศหายใจ แล้วกลืนทั้งตัว
  • การกินอาหาร: กินอาหารไม่บ่อยนัก โดยทั่วไปให้อาหาร 1 ครั้งต่อ 7-10 วัน ขึ้นอยู่กับขนาดของงู
  • การนอนหลับ: นอนหลับนาน มักขดตัวเป็นก้อนกลม นอนหลับในที่มืดและอับชื้น
  • การขับถ่าย: ขับถ่ายเป็นมูลและปัสสาวะเป็นระยะ
  • การสลัดหนัง: สลัดหนังเป็นประจำ โดยทั่วไปสลัดหนังปีละ 1-2 ครั้ง
  • นิสัย: โดยทั่วไปเป็นงูที่温顺 ไม่ดุร้าย ชอบการสัมผัส แต่ไม่ควรเล่นกับงูบ่อยจนเกินไป
พฤติกรรมอื่นๆ
  • การว่ายน้ำ: งูบอลไพธ่อนสามารถว่ายน้ำได้ดี
  • การปีนป่าย: งูบอลไพธ่อนสามารถปีนป่ายได้ดี
  • การสื่อสาร: งูบอลไพธ่อนสื่อสารกันด้วยกลิ่นและการสั่นสะเทือน

3.การเลี้ยงงูบอลไพธ่อนเป็นสัตว์เลี้ยง: คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น

งูบอลไพธ่อน (Python regius) เป็นที่นิยมในหมู่ผู้เลี้ยงสัตว์แปลกใหม่ ด้วยนิสัยที่温顺 ดูแลรักษาง่าย และมีหลายสายพันธุ์ให้เลือก แต่ก่อนตัดสินใจเลี้ยง ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เตรียมความพร้อม และดูแลพวกมันอย่างถูกวิธี

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยง

  • ศึกษาข้อมูล: ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับงูบอลไพธ่อน สายพันธุ์ต่างๆ ความต้องการพื้นที่ อาหาร อุณหภูมิ ความชื้น และการดูแลสุขภาพ
  • เตรียมอุปกรณ์: เตรียมตู้เลี้ยง หลอดไฟ อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น ที่หลบซ่อน อาหาร น้ำ และอุปกรณ์ทำความสะอาด
  • เลือกซื้องู: เลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ตรวจสอบสุขภาพของงูก่อนซื้อ
  • เตรียมสถานที่: เตรียมสถานที่วางตู้เลี้ยงให้มั่นคง ปลอดภัย และเงียบสงบ

การจัดตู้เลี้ยง

  • ขนาดตู้: ขนาดตู้ควรเหมาะสมกับขนาดของงู โดยทั่วไปควรมีพื้นที่เพียงพอให้งูยืดตัวได้เต็มที่
  • วัสดุรองพื้น: ใช้วัสดุรองพื้นที่สะอาด ระบายอากาศได้ดี เช่น ขี้โกงกาง เศษไม้สน
  • อุณหภูมิ: ควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม โดยทั่วไปอยู่ที่ 25-30 องศาเซลเซียส มีจุดอุ่นและจุดเย็น
  • ความชื้น: ควบคุมความชื้นให้เหมาะสม โดยทั่วไปอยู่ที่ 50-60%
  • ที่หลบซ่อน: ให้งูมีที่หลบซ่อนเพื่อพักผ่อน รู้สึกปลอดภัย
  • น้ำ: ใส่น้ำสะอาดให้งูแช่ตัว

การให้อาหาร

  • อาหาร: ให้อาหารเป็นสัตว์ฟันแทะที่ตายแล้ว เช่น หนู กระรอก นก
  • ความถี่: ให้อาหาร 1 ครั้งต่อ 7-10 วัน ขึ้นอยู่กับขนาดของงู
  • น้ำ: ใส่น้ำสะอาดให้งูดื่มตลอดเวลา

การดูแลสุขภาพ

  • สังเกตอาการผิดปกติ: สังเกตอาการผิดปกติของงู เช่น ไม่กินอาหาร ซึม อาเจียน
  • ทำความสะอาดตู้เลี้ยง: ทำความสะอาดตู้เลี้ยงเป็นประจำ เปลี่ยนวัสดุรองพื้น
  • พาไปพบสัตวแพทย์: พาไปพบสัตวแพทย์เมื่อจำเป็น

ข้อควรระวัง

  • การกัด: งูบอลไพธ่อนกัดได้ แต่ไม่ดุร้าย กัดเมื่อรู้สึกกลัวหรือถูกคุกคาม
  • โรค: งูบอลไพธ่อนสามารถป่วยเป็นโรคได้ เช่น โรคระบบทางเดินอาหาร โรคติดเชื้อ
  • อุบัติเหตุ: ระวังอุบัติเหตุ เช่น งูหลุดออกจากตู้เลี้ยง

4.การดูแลและการให้อาหารงูบอลไพธ่อน

การดูแล

1. อุณหภูมิและความชื้น

  • ควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม โดยทั่วไปอยู่ที่ 25-30 องศาเซลเซียส มีจุดอุ่นและจุดเย็น
  • ควบคุมความชื้นให้เหมาะสม โดยทั่วไปอยู่ที่ 50-60%

2. ความสะอาด

  • ทำความสะอาดตู้เลี้ยงเป็นประจำ เปลี่ยนวัสดุรองพื้น
  • ใส่น้ำสะอาดให้งูดื่มตลอดเวลา
  • อาบน้ำให้งูบ้างเป็นครั้งคราว

3. การจัดการ

  • จับงูด้วยความระมัดระวัง สนับสนุนลำตัวจากด้านล่าง
  • ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังจับงู
  • หลีกเลี่ยงการจับงูบ่อยจนเกินไป

การให้อาหาร

1. อาหาร

  • ให้อาหารเป็นสัตว์ฟันแทะที่ตายแล้ว เช่น หนู กระรอก นก
  • เลือกขนาดอาหารให้เหมาะสมกับขนาดของงู
  • อาหารควรสด สะอาด ปราศจากโรค

2. ความถี่

  • ให้อาหาร 1 ครั้งต่อ 7-10 วัน ขึ้นอยู่กับขนาดของงู
  • งูเด็กอาจต้องให้อาหารบ่อยกว่างูโต
  • สังเกตว่างูกินอาหารหมดหรือไม่

3. น้ำ

  • ใส่น้ำสะอาดให้งูดื่มตลอดเวลา
  • เปลี่ยนน้ำทุกวัน

ข้อควรระวัง

  • งูบอลไพธ่อนอาจกัดได้ แต่ไม่ดุร้าย กัดเมื่อรู้สึกกลัวหรือถูกคุกคาม
  • ล้างมือให้สะอาดหลังจับงู
  • เก็บอาหารและน้ำให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยงอื่น
  • พาไปพบสัตวแพทย์เมื่อจำเป็น

5.การเพาะพันธุ์งูบอลไพธ่อน: คู่มือสำหรับมือใหม่

การเพาะพันธุ์งูบอลไพธ่อน requires ความรู้ ประสบการณ์ และการเตรียมตัวอย่างรอบคอบ เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการเลี้ยงงู

ก่อนการเพาะพันธุ์

  • ศึกษาข้อมูล: ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเพาะพันธุ์งูบอลไพธ่อน สายพันธุ์ต่างๆ เทคนิคการผสมพันธุ์ การดูแลลูกงู โรคภัยไข้เจ็บ
  • เตรียมความพร้อม: เตรียมสถานที่ อุปกรณ์ อาหาร และเงินทุน
  • คัดเลือกพ่อแม่พันธุ์: คัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่มีสุขภาพดี ไม่มีโรค อายุเหมาะสม
  • เตรียมตู้เพาะพันธุ์: เตรียมตู้เพาะพันธุ์ที่มีอุณหภูมิ ความชื้น และแสงสว่างเหมาะสม

ขั้นตอนการผสมพันธุ์

  1. การวางไข่: งูบอลไพธ่อนตัวเมียจะวางไข่ประมาณ 6-10 ฟอง ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
  2. การฟักไข่: เก็บไข่ในตู้ฟักที่มีอุณหภูมิและความชื้นเหมาะสม ใช้เวลาประมาณ 60-70 วัน
  3. การเจริญเติบโต: ลูกงูจะเจริญเติบโตโดยใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน

การดูแลลูกงู

  • ให้อาหาร: ให้อาหารลูกงูที่เหมาะสมกับขนาดตัว โดยทั่วไปให้อาหาร 1 ครั้งต่อ 5-7 วัน
  • ดูแลความสะอาด: ทำความสะอาดตู้เลี้ยงลูกงูเป็นประจำ เปลี่ยนวัสดุรองพื้น
  • สังเกตสุขภาพ: สังเกตสุขภาพลูกงู พาไปพบสัตวแพทย์เมื่อจำเป็น

ปัญหาที่อาจพบ

  • ไข่ไม่ฟัก: สาเหตุอาจมาจากอุณหภูมิ ความชื้น หรือโรค
  • ลูกงูตาย: สาเหตุอาจมาจากอาหาร ความสะอาด หรือโรค

6.งูบอลไพธ่อน: เหตุผลที่เป็นที่นิยมในวงการสัตว์เลี้ยง

งูบอลไพธ่อน (Python regius) กลายเป็นสัตว์เลี้ยงแปลกใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยเหตุผลหลักๆ ดังนี้

1. นิสัยที่ไม่ดุร้าย

งูบอลไพธ่อนเป็นงูที่ไม่ดุร้าย กัดได้ แต่ไม่กัดบ่อย ชอบขดตัวเป็นก้อนกลม ไม่ชอบการรบกวน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัตว์เลี้ยงที่ไม่ต้องดูแลมากนัก

2. ดูแลรักษาง่าย

งูบอลไพธ่อนกินอาหารไม่บ่อย ต้องการพื้นที่ไม่มาก ทำความสะอาดง่าย ไม่ส่งเสียงรบกวน เหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดหรือพื้นที่จำกัด

3. สวยงามหลากหลาย

งูบอลไพธ่อนมีหลายสายพันธุ์ สีสัน ลวดลาย และขนาดให้เลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบสัตว์เลี้ยงที่มีเอกลักษณ์

4. ราคาไม่แพง

งูบอลไพธ่อนมีราคาไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับสัตว์เลี้ยงแปลกใหม่ชนิดอื่นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด

5. หาซื้อได้ง่าย

งูบอลไพธ่อนสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายสัตว์เลี้ยงทั่วไป ฟาร์มเพาะพันธุ์งู หรือทางออนไลน์

6. อายุยืนยาว

งูบอลไพธ่อนมีอายุยืนยาว โดยเฉลี่ย 10-20 ปี

7. ฉลาด

งูบอลไพธ่อนเป็นงูที่ฉลาด สามารถฝึกให้คุ้นเคยกับคน

8. ไม่ส่งกลิ่นเหม็น

งูบอลไพธ่อนไม่มีต่อมขับกลิ่น จึงไม่ส่งกลิ่นเหม็น

9. ช่วยลดความเครียด

การสัมผัสงูบอลไพธ่อน ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด

10. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

งูบอลไพธ่อนไม่สร้างขยะ ไม่ส่งเสียงดัง ไม่รบกวนเพื่อนบ้าน

อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจเลี้ยงงูบอลไพธ่อน ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เตรียมความพร้อม ดูแลพวกมันอย่างถูกวิธี รับรองว่างูบอลไพธ่อนจะกลายเป็นเพื่อนร่วมทางที่น่ารักและอยู่เคียงข้างคุณไปนาน

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

Out of stock
OF Sweet Pet Home
OF Sweet Pet Home
13033043350648
13033043350648
1 109
13033043350648
Petz World Acrylic Box34393 2
Acrylic Box53421 2
Petz World Acrylic Box53557 2
56844 156844 2

บทความที่น่าสนใจ